แนะนำ 4 สิ่งที่ควรเตรียมพร้อมสำหรับการนำเสนอผ่าน Pitching

แนะนำ 4 สิ่งที่ควรเตรียมพร้อมสำหรับการนำเสนอผ่าน Pitching

เป็นเรื่องยาก กว่าจะสร้างสรรค์ไอเดียสุดเจ๋งออกมา แต่การโน้มน้าวให้ผู้อื่นสนใจไอเดียเหล่านี้นั้นยากกว่า จึงเกิดสิ่งที่เรียกว่า Pitching ที่ความหมายเปลี่ยนไปตามบริบทที่ใช้ แต่หลักๆ คือ การโน้มน้าวให้ผู้ฟังทำตามที่คุณต้องการนั่นเองค่ะ เช่น

● ในธุรกิจ Startup คือการนำเสนอไอเดียกับนักลงทุน ให้อยากเข้ามาลงทุนในธุรกิจนี้

● ในธุรกิจทั่วไป คือการนำเสนอสินค้า/บริการให้ลูกค้าอยากซื้อสินค้า/บริการ

แนะนำ 4 สิ่งที่ควรเตรียมพร้อมสำหรับการนำเสนอผ่าน Pitching ซึ่งสามารถใช้ได้กับหลากหลายธุรกิจ ทั้งยังช่วยให้กลุ่มเป้าหมายสนใจแนวคิดและไอเดียของคุณมากขึ้น

1 - รู้ว่ากำลัง Pitching กับใคร

ทำความรู้จักกลุ่มเป้าหมายที่กำลังจะโน้มน้าวอย่างละเอียด เพื่อปรับรูปแบบการนำเสนอให้เหมาะสมและสอดคล้อง ระหว่างผู้นำเสนอและผู้ฟังมากที่สุด

ยกตัวอย่างในมุมของธุรกิจ Startup ที่มีสิ่งที่ต้องพิจารณามากกว่าเรื่องเงิน เพราะเมื่อยอมรับการลงทุน นั่นแสดงว่ากำลังรับผู้อื่นเข้ามาเป็นหุ้นส่วนในธุรกิจ จึงต้องมั่นใจในความมุ่งมั่นของตัวเอง ไม่ล้มเลิกกลางทาง รวมทั้งศึกษาและค้นหานักลงทุนที่มีศักยภาพ ก่อนที่จะทำการเสนอขาย

ในการค้นหานักลงทุนที่มีศักยภาพ อาจจะใช้คำถามในการพิจารณาว่า :

● พวกเขามักจะลงทุนในอุตสาหกรรมอะไร? การรู้จักประเภทของอุตสาหกรรมที่หุ้นส่วนลงทุนจะช่วยให้ปรับแต่ง Pitching ได้เหมาะสมมากขึ้น

● พวกเขามักลงทุนในระยะใด? ลงทุนตั้งแต่ระยะเริ่มต้น หรือลงทุนในระยะที่เติบโตเต็มที่ แต่ต้องการเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ หรือซื้อธุรกิจอื่นเพิ่ม

● ประวัติการลงทุนของพวกเขามีอะไรบ้าง? เจาะลึกประสบการณ์และประวัติการลงทุน จะช่วยในการพิจารณาว่า นี่คือนักลงทุนที่เหมาะสมกับการเข้ามาเป็นหุ้นส่วนในธุรกิจของคุณหรือไม่? และบุคลิกของคุณสอดคล้องกับการทำงานของพวกเขามากแค่ไหน?

2 - ภาพรวมของธุรกิจ

แสดงภาพรวมของธุรกิจและคุณค่าที่มอบให้กับผู้ใช้งานแบบสั้นๆ กระชับและเข้าใจง่าย อาจจะสร้างสโลแกนที่น่าจดจำสำหรับนักลงทุนหรือลูกค้า เช่น

“เราคือ Uber สำหรับสัตว์เลี้ยง”

“พวกเราคือ Netflix สำหรับวิดีโอเกม”

เทคนิคการเปรียบเทียบนี้ช่วยให้เห็นภาพได้ดี แต่ต้องสมเหตุสมผลเช่นกัน โมเดลธุรกิจของคุณจะต้องคล้ายกับบริษัทที่กำลังอ้างอิงจริงๆ ไม่ใช่การใช้ชื่อบริษัทที่มีชื่อเสียงเพื่อแสดงศักยภาพในการเติบโตเท่านั้น

3 - ใช้การเล่าเรื่อง

เมื่ออธิบายไอเดียทางธุรกิจของคุณ ให้เน้นกล่าวถึงปัญหาและวิธีแก้ไขที่ดีกว่าคู่แข่ง ซึ่งทำได้โดยนำเสนอสถานการณ์ในชีวิตจริง อธิบายปัญหาที่ลูกค้าต้องเผชิญ พร้อมโซลูชันที่ไอเดีย,สินค้าหรือบริการของคุณช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้

อาจจะใช้รูปภาพประกอบหรือสื่ออื่นๆ ประกอบ การแสดงให้เห็นมักจะดีกว่าการพูดปากเปล่าเสมอ ยิ่งทำให้ปัญหาเป็นจริงได้มากเท่าไร นักลงทุนหรือลูกค้าก็จะยิ่งเข้าใจธุรกิจและเป้าหมายของคุณมากขึ้นเท่านั้น

4 - มีแผนงานและความสามารถในการดึงดูดลูกค้า

หากคุณมียอดขายหรือมีลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของคุณมาก่อนแล้ว แนะนำให้พูดถึงเรื่องนี้ด้วย เปรียบเหมือนการพิสูจน์ไอเดียธุรกิจนี้ในแง่มุมหนึ่งแล้ว ว่าสามารถลดความเสี่ยงในการลงทุนหรือการใช้งานจริงได้ นั่นแปลว่าหลักฐานที่ยืนยันว่า โซลูชันไอเดียของคุณ สามารถทำงานเพื่อแก้ปัญหาที่ระบุไว้ได้จริง ก็มีความสำคัญมากเช่นกัน

รวมทั้งการพูดคุยเกี่ยวกับเป้าหมายว่า คุณบรรลุเป้าหมายสำคัญอะไรไปแล้วบ้าง และอะไรคือขั้นตอนต่อไปที่คุณวางแผนจะทำ

Pitching อาจเป็นสิ่งแรกที่ผู้ฟังจะได้รู้จักกับไอเดียของคุณ และน้อยมากที่การลงทุนหรือการซื้อจะเกิดขึ้นทันทีหลังจากการนำเสนอเพียงครั้งเดียว ดังนั้น เป้าหมายของคุณ คือการจุดประกายความสนใจให้กับไอเดีย เพราะ Pitching ที่ดี จะทำให้ผู้ฟังรู้สึกตื่นเต้นกับแนวคิดและไอเดียของผู้นำเสนอ จนต้องการที่จะสนทนาเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจนี้ และนำไปสู่การลงทุนหรือการซื้อในที่สุดค่ะ

-------

ที่มา

https://online.hbs.edu/blog/post/how-to-pitch-a-business-idea 

https://articles.bplans.com/what-to-include-in-your-pitch-deck/ 

https://thestandard.co/ais-the-startup-persuasive-startup-pitching/ 

https://www.momstudio.co/pitching/