751 จำนวนผู้เข้าชม |
เคล็ดลับการพัฒนาธุรกิจด้วย Business Model Canvas
Business Model Canvas อีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญของคนทำธุรกิจ ที่ทำให้การวางแผนเป็นระบบและพัฒนาไปได้ไกลมากขึ้น เป็นเครื่องมือแนวคิดอันชาญฉลาดที่ถูกพัฒนารูปแบบโดย Alex Osterwalder นักทฤษฎีนักธุรกิจชาวสวิตเซอร์แลนด์
โดย Business Model Canvas เป็นเทมเพลตสี่เหลี่ยมผืนผ้า แบ่งหัวข้อหลักออกเป็น 9 ส่วน ที่จะช่วยให้เข้าใจรูปแบบธุรกิจอย่างครอบคลุม ทั้งโครงสร้าง จุดเด่น จุดด้อยและปัญหาต่างๆ ของบริษัท ความเสี่ยงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รวมไปถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับลูกค้า เพื่อให้ธุรกิจมีโอกาสเติบโตมากยิ่งขึ้น
ซึ่งวันนี้ SCG HR SOLUTION จะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับองค์ประกอบ 9 ส่วน เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในธุรกิจค่ะ
ส่วนที่ 1 Customer Segment
ลูกค้าของเราคือใคร กลุ่มใหญ่หรือเฉพาะกลุ่ม ยิ่งสามารถเจาะลึกระบุได้ชัดเจน เช่น รู้ในส่วนของพฤติกรรม เพศ อายุ อาชีพ ที่อยู่อาศัยและการใช้ชีวิตของลูกค้า จะทำให้เราเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำมากขึ้น
ส่วนที่ 2 Value Proposition
ข้อนี้เป็นส่วนสำคัญที่ต้องตอบตัวเองให้ได้ว่า อะไรคือคุณค่าของสินค้าและบริการที่เราเลือกนำเสนอให้ลูกค้า และลูกค้าจะได้คุณค่าอะไรจากการยอมจ่ายเงินให้เรา
ส่วนที่ 3 Channels
ช่องทางต่างๆ ในการเข้าถึงลูกค้าและการส่งสารไปให้ถึงผู้รับ และวัดผลในแต่ละช่องทางว่าสามารถเข้าถึง และตอบโจทย์การใช้งานของผู้รับได้มากน้อยแค่ไหน
ส่วนที่ 4 Customer Relationships
อีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม คือการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าทั้งเก่าและใหม่ ซึ่งช่วยให้เกิดการบอกต่อ การซื้อซ้ำ และก่อให้เกิดความภักดีต่อแบรนด์หรือ Brand Loyalty ตามมา
ส่วนที่ 5 Revenue streams
สำหรับข้อนี้ อาจเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เริ่มต้นทำธุรกิจเลยก็ว่าได้ ควรรู้ว่ารายได้ของเรามาจากช่องทางไหนบ้าง มีประเภทและขั้นตอนการรับรายได้อย่างไร มีรายได้รองจากแหล่งอื่นๆ อีกหรือไม่ และควรเน้นหนักไปในทิศทางใด เพื่อให้รายได้เติบโตขึ้น
ส่วนที่ 6 Key Resource
เป็นทรัพยากรที่ทำให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
◾️ ทรัพยากรที่เป็นรูปธรรม เช่น สินค้า, วัตถุดิบ
◾️ ทรัพยากรที่เป็นนามธรรม เช่น แบรนด์ ลิขสิทธิ์
หากระบุได้ว่าทรัพยากรของเรามีอะไรบ้าง จะทำให้เห็นขีดความสามารถที่จะนำมาพัฒนาส่วนต่างๆ ให้กับธุรกิจ
ส่วนที่ 7 Key Activities
ระบุว่าจะต้องทำสิ่งใด เพื่อให้ธุรกิจชัดเจนและเป็นจริงมากขึ้น ซึ่งแต่ละธุรกิจก็จะมีหน้าที่แตกต่างกันไป เช่น กระบวนการผลิต การจัดส่ง ต้องระบุให้ชัดเจนเพื่อที่ช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างยั่งยืนและประสบความสำเร็จ
ส่วนที่ 8 Key Partners
คือ พันธมิตรการค้าที่มีไว้เพื่อคอยช่วยเหลือและให้คำปรึกษา ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำธุรกิจพัฒนามากขึ้น เพราะได้โฟกัสเรื่องที่สำคัญกว่า ไม่ต้องดำเนินการทุกอย่างด้วยตัวเอง โดย Key Partners เป็นส่วนที่มีบทบาทในการส่งมอบคุณค่าไปยังลูกค้า
ส่วนที่ 9 Cost Structure
หากมีต้นทุนค่าใช้จ่ายต่ำ จะยิ่งทำให้แข่งขันกับคู่แข่งในตลาดได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยแบ่งตามวัตถุประสงค์ได้ 2 ประเภท คือ
◾️ ต้นทุนเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ เช่น ค่าจ้างพนักงาน ค่าน้ำ ค่าไฟ
◾️ ต้นทุนเพื่อเพิ่มคุณค่าให้ธุรกิจ เช่น งบโฆษณา งบประชาสัมพันธ์
หากจัดการแผนธุรกิจโดยการใช้เครื่องมือนี้ จะทำให้เรามองเห็นทุกด้าน และสามารถพัฒนาธุรกิจให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำมากขึ้นค่ะ
------
ref
https://www.marketingoops.com/news/biz-news/business-model-canvas/
https://www.seolnwza.com/blog/read/457
https://blog.ourgreenfish.com/2017/09/18/business-model-canvas